Farroso

รุ่นนี้ จะอยู่ใน กลุ่ม Season Talatech

Season Talatech เป็นกลุ่มที่นอนที่ไม่มีสปริง แบ่งออกไปเป็น 2 อย่าง คือ Mix Talatech และ Full Talatech 

โดย Omazz จะมียางพาราอยู่ 2 แบบที่จะใช้ในการผลิตที่นอน
-  อย่างแรก คือ ยางพาราที่ชื่อว่า Talalay (ทาลาเลย์) ข้อดีของยางตัวนี้คือ เวลานอนลงไปแล้วนั้นจะได้ความรู้สึกการนอนที่ นุ่ม - นุ่มมาก จะห่อตัวเล็กน้อย แต่ไม่จมตัว ซึ่งขบวนการทำยางพาราชนิดนี้คือ ใช้น้ำยางพารา 100% ผสมกับน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน จึงทำให้ยางพารานั้นบริสุทธ์ และไม่ส่งผลเสียใดๆต่อร่างกาย โดย Omazz นั้นใช้ค่าวัดความหนาแน่นเป็นค่า lid ซึ่งพอกำหนดแล้วเครื่องจะทำการฉีดน้ำยางพาราลงไปที่บล็อก และนำไปอบให้ยางพาราอยู่ตัวด้วยความร้อนสูง ต่อมาจะนำไปแช่เย็นทันทีและทำการฟอกด้วยน้ำอีกที เพื่อให้ยางพารานั้นคงรูปและคงตัว และเพื่อให้ยางพาราแต่ละก้อนนั้นมีรูระบายอากาศทั่วทั้งก้อน ซึ่งจะเป็นผลดีมากกับการนอน คือจะช่วยระบายความร้อน นอนลงไปแล้วไม่ร้อนแน่นอน

-  อีกชนิด คือ ยางพาราที่เป็นแบบ Organic form (ออแกนนิกโฟม) ยางตัวนี้ขั้นตอนการผลิตทุกอย่างเป็นแบบเดียวกับยางทาลาเลย์  แต่ตัวน้ำยางพารานั้นจะใช้ตัวน้ำมันถั่วเหลืองมาผสมแทน ซึ่งจะช่วยให้ยางจับตัวได้แน่นมากกว่าน้ำมันดอกทานตะวันทำให้ความรู้สึกที่นอนที่แน่นขึ้น 

Omazz รุ่น Farroso รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เด่นของ Mix Talatech :

Mix Talatech คือกลุ่มที่สร้างชื่อให้กับทาง Omazz มากที่สุดใน Range ราคา หลักหมื่นไม่ถึงแสน (ที่นอนที่เป็นยางพาราทั้งก้อน ยางพาราแท้ๆ แบบ Omazz ไม่ว่าแบรนด์ไหนนั้นราคาจะอยู่ที่ 4-5 หมื่นขึ้นเป็นปกติ) *ความรู้สึกจะเป็นแบบนุ่มแน่น ระดับแน่นจนถึงแน่นมาก และกระชับหลังมาก แต่ไม่เด้ง เน้นนอนลงไปแล้วที่นอนจะบล็อกตามหลัง จะช่วยลดแรงกดทับได้ดีมาก ซึ่งตัวที่จะแนะนำในกลุ่ม Mix Talatech นี้จะใช้ตัวยางพารา แบบทาลาเลย์ แบบนุ่ม ผมผสมกับยาง Organic แบบแน่น ซึ่งฟีลการนอนจะออกตามสัดส่วนของยางที่ใช้ในแต่ละแบบ

Omazz รุ่น Farroso รุ่นนี้นอนลงไปแล้ว ที่นอนจะจัดระบบหลังของเราให้อยู่ในจุด Correst Orthopedic Position  หลังผู้นอนจะอยู่ในระนาบแนวตรง รองรับทุกสรีระของผู้นอน รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบที่นอนออกนุ่ม แต่ไม่เด้ง และไม่ปวดหลัง.

ความหนาของที่นอนประมาณ 25 ซม.

แต่ถ้าท่านใดชอบที่นอนยางพารา แต่ความรู้สึกออกแน่นๆ แนะนำเป็นรุ่น Falcohn (อ่านเพิ่มเติม)